แมนซิตี้ฟัดดอร์ทมุนด์ สเตอร์ลิง วัดคม ฮาแลนด์” ยกแรก8ทีมชปล.
แมนซิตี้ฟัดดอร์ทมุนด์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” ผลงานสุดร้อนแรงมีลุ้นทุกถ้วยที่ลงแข่งความพร้อมไร้ปัญหา
แมนซิตี้ฟัดดอร์ทมุนด์ ราฮีม สเตอร์ลิง นำทัพ ทางด้าน ดอร์ทมุนด์ ฟอร์มแกว่งล่าสุดไร้ชัยมา 2 เกมแล้วแนวรุกมี เออร์ลิง ฮาแลนด์
แมนซิตี้ฟัดดอร์ทมุนด์ หัวหอกเนื้อหอมเป็นตัวทีเด็ด ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันอังคารที่ 6 เม.ย. นี้
ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564
แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) – ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน)
เวลา : 02.00 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์แมนฯ ซิตี้ พาทีมเข้ารอบนี้ หลังฝ่าด่านกลัดบัคมาแบบสบาย ๆ ด้วยประตูรวม 2 นัด 4-0 ก่อนอัดเลสเตอร์ 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด เป็นการคว้าชัย 5 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ
ความพร้อมเกมนี้ “น้าเป๊ป” ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม แถมขุมกำลังที่มีอยู่ก็สมบูรณ์พร้อมทุกรายไร้อาการบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าน่าจะมีการปรับทัพจากเกมล่าสุดพอสมควร พวกตัวหลักที่ถูกเก็บสดไว้เป็นสำรองอย่างจอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิล โฟเด้น ก็น่าจะสลับมาออกสตาร์ทตามปกติ
นอกจากนี้ในรายของกานเซโล่ และ แฟร์นันดินโญ่ ต่างติดคาดโทษใบเหลืองอยู่ หากโดนเพิ่มก็จะวืดบู๊นัด 2 ทันที
เอดิน เทอร์ซิช รักษาการเทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ พาทีมเข้ารอบนี้ หลังเบียดชนะเซบีย่าด้วยประตูรวม 2 นัดแบบหวุดหวิด 5-4 ก่อนแพ้แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้ว
สภาพทีมล่าสุด เทอร์ซิชต้องลุ้นความฟิตของ ยูสซูฟา มูโกโก้ ที่เจ็บหน้าแข้ง แต่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเจดอน ซานโช, มาร์เซล ชเมลเซอร์, อั๊กเซล วิตเซล และ ดาน-อั๊กเซล ซากาดู ยังชวดเหมือนเดิม
การจัดทัพก็อาจมีการปรับเล็กน้อย มาห์มูด ดาอูด ที่เป็นสำรองในเกมล่าสุด ก็อาจได้สลับมาเป็นตัวจริง
นอกจากนี้ที่สำคัญ เทอร์ซิช ต้องกำชับ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่ง ให้ระมัดระวัง เนื่องจากมีใบเหลืองติดตัว หากโดนจดชื่อเพิ่ม ก็จะพลาดนัด 2 ทันที
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น
เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : มาร์วิน ฮิตซ์ – เอ็มเร่ ชาน, มานูเอล อคานจี, มัตส์ ฮุมเมลส์, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – จู๊ด เบลลิงแฮม, โธมัส เดอลานี่ย์, มาห์มูด ดาอูด – มาร์โก รอยส์, เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์, ธอร์กาน อาซาร์
เทรนเนอร์ : เอดิน เทอร์ซิช (รักษาการ)
ผู้ตัดสิน : โอวิดิอู ฮาเตกาน (โรมาเนีย)
เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม
– แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้ามาเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ได้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้พวกเขาตกรอบนี้ทั้งหมด
– ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ ก็แพ้ในรอบนี้ทั้งสองครั้งหลังสุดที่ลงเล่น แต่ถ้ารวมทั้งหมดพวกเขาตกรอบ 3 ครั้งและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอีก 3 ครั้ง
– ชัยชนะในเกมที่สองกับ กลัดบัค ในรอบที่ผ่านมาทำให้ เรือใบสีฟ้า ชนะทีมจากบุนเดสลีกามาแล้ว 6 นัดติดต่อกันที่ อิติฮัด สเตเดี้ยม
– และผลเสมอกับ สิงห์หนุ่ม 1-1 เมื่อปี 2016 เป็นนัดเดียวที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถเอาชนะทีมจากเยอรมันได้ใน 11 เกมหลังสุดที่พบกัน ซึ่งเกมล่าสุดที่พวกเขาแพ้ก็คือแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในปี 2014
– ส่วนทาง เสือเหลือง ชนะได้เพียงแค่ 3 จาก 12 เกมหลังสุดในรอบน็อกเอ้าท์ (เสมอ 3 แพ้ 6)
– ดอร์ทมุนด์ มีสถิติที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ในการพบกับทีมจากอังกฤษ โดย 5 เกมหลังสุดไม่สามารถเอาชนะทีมจากพรีเมียร์ลีกได้เลย ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เอาชนะได้คือชนะ สเปอร์ส 2-1 เมื่อปี 2015